หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เผชิญกับสถานการณ์เลิกรา และรู้สึกยังไม่สามารถเดินต่อได้สักที ยิ่งนานวันเรื่องราวเหล่านี้ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ความทรงจำเก่าๆ ย้อนกลับมาพรั่งพรูในจิตใจของคุณ จนอาจทำให้รู้สึกว่าไม่สามารถจะก้าวต่อไปได้
หลายๆ บทความกล่าวว่าหลังจากการเลิกรา เวลาจะช่วยรักษาแผลใจได้ แต่ในบางความทรงจำ และ บางเหตุการณ์เวลาก็ไม่สามารถจะช่วยเยียวยาได้ทั้งหมด รวมถึงไม่สามารถระบุกรอบเวลาที่ชัดเจนแน่นอน บางคนใช้เวลาแค่ 1 สัปดาห์ 1 เดือน หรือ บางคนใช้เวลายาวนานหลายปีเพื่อจะก้าวข้ามผ่านความรู้สึกเหล่านี้ไปได้
บทความนี้ จะช่วยให้คุณกลับมาสำรวจถึงเหตุผลที่ทำให้คุณไม่สามารถมูฟออนได้สำเร็จเสียที และหวังว่าเมื่อเข้าใจแล้ว จะทำให้เราจัดการจิตใจตัววเอง และ มูฟออนได้เสียที
1) คุณยังมีความหวังว่า จะสามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ : หากคุณยังมีความรู้สึกยึดมั่น ยังมีความหวังว่าคุณกับเขาจะยังสามารถหวนกลับมาคืนดีกันได้ สิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญที่เป็นตัวฉุดรั้ง และ ประวิงเวลาของคุณที่จะก้าวต่อไปในอนาคต
2) คุณยังต้องการหาเหตุผลของการเลิกราอยู่ : บ่อยครั้งในหลายๆ สถานการณ์ในการยุติความสัมพันธ์ บางคู่มีเหตุผลที่ชัดเจน มีการพูดคุยตกลงกันอย่างเข้าใจ แต่ในบางสถานการณ์การเลิกราเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนที่จะทำให้คุณเข้าใจสาเหตุของการเลิกราได้ด้วยซ้ำ และนั่นเองทำให้คุณยังตกอยู่ในหลุมของความคลุมเครือนี้ ส่งผลให้คุณคิดวนเวียนซ้ำซาก ว่าเป็นความผิดของคุณหรือไม่ หรือ เป็นเพราะสาเหตุใด จนไม่สามารถที่จะหยุดคิดถึงมันได้
หากข้อนี้เป็นเหตุผลทีตรงกับสถานการณ์ของคุณ ข่าวดีก็คือ คุณสามารถเป็นผู้เลือกที่จะจบความรู้สึกค้างคาใจนี้ได้ด้วยตัวคุณเอง ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีมากมาย เช่น การเขียนจดหมายลาคนรักเก่าของคุณ เพื่อที่จะกำจัดความรู้สึกต่างๆ ที่ค้างคาในใจ ที่คุณยังไม่เคยได้พูด หรือ ระบายออกมา หรือ คุณอาจจะใช้เทคนิคที่เรียกว่า เก้าอี้ว่างเปล่า โดยสมมติว่า แฟนเก่าของคุณนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวนั้น และคุณก็สามารถที่จะพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่ค้างคาในจิตใจของคุณออกไปได้ เป็นต้น
3) คุณมีความรู้สึกผิดต่อคนรักเก่าของคุณ : เมื่อความสัมพันธ์ต้องยุติ และมีคนหนึ่งคนต้องก้าวออกมา ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าคุณจะยังคงคิดถึงแต่เรื่องดีๆ ที่มีให้แก่กัน ซึ่งมีมากมายจนคุณไม่สามารถลืมได้ บ่อยครั้งเราอาจจะลืมมองบางสิ่งบางอย่างที่เป็นจุดเปราะบางระหว่างคู่ของคุณ สาเหตุที่แท้จริงของการจบความสัมพันธ์ คุณอาจลองค่อยๆ นึกถึงสถานการณ์ต่างๆ นึกถึงเหตุผลที่คุณทั้งคู่ไม่สามารถไปด้วยกันต่อไปได้แล้ว ค่อยๆ เขียนออกมาทีละข้อ และ ค่อยๆ ทบทวนเหตุผลต่างๆ ด้วยตัวของคุณเอง
4) คนรักเก่าเป็นคนสำคัญอันดับแรกของคุณ : บางครั้งคุณให้ความสำคัญกับคนรักของคุณเป็นอันดับต้นๆ ของชีวิต ซึ่งอาจเป็นเพราะ เขาเป็นคนแรกที่คุณตกหลุมรัก หรือ เป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งครั้งแรกที่คุณมี ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะต้องเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีคู่รักที่มีความสำคัญอย่างมากต่อชีวิตของคุณ
5) คุณไม่อนุญาตให้ตัวเองเสียใจกับเหตุการณ์นี้ : เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่โศกเศร้า ทุกข์ใจ เป็นเรื่องปกติของคนจำนวนมาก ที่อยากจะผ่านช่วงเวลานี้ให้ได้อย่างเร็วที่สุด คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่กดความรู้สึกผิดหวัง เสียใจนี้ไว้ และพยายามทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น การที่มูฟออนได้สำเร็จ ส่วนหนึ่งที่ทุกคนจะต้องทำก็คือเผชิญหน้าต่อความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้น เปิดใจยอมรับความเสียใจ ปลดปล่อยอารมณ์ที่แท้จริงของเราออกมา ซึ่งสามารถทำได้โดย ปรึกษาเพื่อนที่ไว้ใจ หรือ นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ
6) คุณยังไม่ได้เปิดใจให้กับคนอื่นๆ : มันอาจเป็นเรื่องยาก หลังจากการเลิกรา ที่ทำให้คุณไม่รู้สึกชอบหรือสนใจใครอีกครั้ง ไม่ว่าคุณจะพยายามเปิดใจ ออกไปพบเจอคนใหม่ๆ แต่ก็ดูเหมือนยังไม่มีใครที่ทำให้คุณรู้สึกดีด้วย เพราะบางที ลึกๆ ภายในใจของคุณยังคงหวังว่า จะกลับไปคืนดีกับคนรักเก่าของคุณ หรือแม้แต่ คุณยังคงเปรียบเทียบคนใหม่กับคนรักเก่าของคุณ ซึ่งสาเหตุนี้ทำให้คุณไม่สามารถเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้
7) คุณร่างภาพคนรักใหม่ของคุณในรูปแบบเดิมๆ : หากคุณลองมองย้อนกลับไปดูชีวิตรักของคุณที่ผ่านมา แล้วพบว่า รูปแบบความรัก หรือ คนรักของคุณ มีความคล้ายคลึงกัน นี่เป็นกลไกธรรมชาติที่สมองของคุณกำลังพยายามรักษาสิ่งที่คุณรู้สึกคุ้นเคยในอดีต โดยที่คุณไม่รู้ตัว
หลายคนมีความคิดว่า เขาจะเริ่มต้นใหม่ และ สามารถเปลี่ยนแปลงตอนจบของเรื่องราวได้ เช่น ในอดีตคุณอาจสูญเสีย หรือ มีความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงกับพ่อแม่ (หรือคนเลี้ยง) เหตุการณ์นี้ เป็นบาดแผลทางจิตใจ ทำให้คุณดึงดูดคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเสมอ และ มักเลือกคนรักในรูปแบบเดิมๆ มาเติมเต็มในสิ่งที่คุณรู้สึกขาด
8) คุณวางแผนระยะยาวกับคนรักเก่าของคุณ : หากคุณวางแผนชีวิตและอนาคตของคุณไว้กับคนรักเก่าของคุณ การยุติความสัมพันธ์ ก็เปรียบเสมือน การสูญเสีบความหวัง และ ความฝันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของคุณด้วย ด้วยเหตุผลนี้ ก็ไม่แปลกอะไรที่คุณจะรู้สึก ผิดหวัง เสียใจ หรือ ล้มเหลว อย่างไรก็ตาม หากคนยังจมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ผิดหวังกับแผนการที่ต้องจบลง ยิ่งนานเท่าไร คุณก็กำลังเสียโอกาสในการสร้างความฝัน และ ชีวิตใหม่ที่คุณสามารถทำให้มันยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้
9) คุณยังติดต่อกับคนรักเก่าของคุณ หรือ ยังติดตามชีวิตของเขาผ่านโซเชียลมีเดีย : หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังคงติดต่อหรืออัพเดตข่าวคราวของพวกเขาอยู่เป็นประจำบนโลกโซเชียลมีเดีย คุณมีแนวโน้มสูงว่าจะไม่สามารถมูฟออนได้ เนื่องจาก การที่คุณยังติดตามชีวิตของเขาอยู่ มันจะทำให้คุณมีความหวังที่จะกลับไปคืนดี หรือ มีโอกาสได้พูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งท้ายที่สุด การทำแบบนี้ ก็เป็นการตอกย้ำต่อความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นเอง
10) คุณประสบกับการเสียตัวตนในความสัมพันธ์ครั้งนี้ : หากการอยู่ในความสัมพันธ์ ทำให้คุณไม่เป็นตัวของตัวเอง คุณไม่มีเพื่อน หรือ คนที่คุณไว้ใจ เพราะที่ผ่านมาคุณใช้เวลาทั้งหมดกับคนรักเก่า มันก็จะเป็นเรื่องที่ยากลำบากที่จะทำให้คุณเดินหน้าต่อไป เพราะคุณจะรู้สึกโดดเดี่ยว และไม่มีใครเมื่อความสัมพันธ์ครั้งนี้จบลง
นี่หละคน 10 สาเหตุที่อาจทำให้คุณไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้สำเร็จเสียที การรับรู้และเข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร เป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะทำให้คุณกลับมาจัดการกับปัญหาของคุณได้อย่างถูกต้อง ให้เวลากับตัวเองในการรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผิดหวัง เสียใจ ทุกข์ใจ ระบายความรู้สึกนั้นออกมา เพราะหากคุณได้ระบายความรู้สึกเหล่านั้นมันก็จะหายไป ต่างกับการกดมันไว้ ที่จะทำให้คุณยังอยู่ที่จุดเดิมและไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสียที
ไม่เพียงเท่านี้ การกลับมาทำความเข้าใจถึงความเชื่อซึ่งบางครั้งอาจทำให้เราต้องเจอกับเรื่องราวเดิมๆ ซ้ำๆ บ่อยครั้งมักเกิดจากเรื่องราว หรือ บาดแผลทางใจในวัยเด็ก การเยียวยาบาดแผลที่เกิดขึ้นจะช่วยทำให้เรา มีความเชื่อใหม่ เลือกความรักที่ดี สิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง มีชีวิตที่มีความสุขได้ด้วยตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่เราแนะนำค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
The Better You Counseling
คุณพร้อมหรือยังที่จะปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง? The Better You Counseling พร้อมเป็นกุญแจสำคัญในการไขความลับสู่ชีวิตที่ดีกว่า ด้วยบริการให้คำปรึกษาที่หลากหลายทั้ง Online และ Onsite เราพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพจิตของคุณ
🔓 Individual Counseling: เซสชั่นส่วนตัวเพื่อสำรวจตัวตนและค้นหาแนวทางในการเติบโต
💑 Couple Counseling: เสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างคู่รัก
👥 Group Counseling: แบ่งปันและเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มที่มีประสบการณ์คล้ายคลึงกัน
เรายังมีหลักสูตรด้านจิตวิทยาที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เพื่อเสริมทักษะการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ พร้อมด้วยบริการบำบัดรักษาเฉพาะทางสำหรับ:
🩹 ผู้ประสบภาวะสะเทือนขวัญทางใจ (Trauma)
✍️ การบำบัดผ่านการเขียน (Writing Therapy)
🧘♀️ Retreat Program ที่ผสมผสานการบำบัดและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
สำหรับองค์กร เราพร้อมให้บริการ:
🔍 วิเคราะห์สุขภาพจิตในที่ทำงาน
🎓 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีในสถานที่ทำงาน
Comments