4 วิธีที่นักจิตวิทยาแนะนำในการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่มีความฉลาดทางอารมณ์

เด็กๆ ก็เหมือนกับผู้ใหญ่อย่างเราๆ ที่จริงๆ แล้วอยากใช้ชีวิตในทุกๆ วันอย่างมีความสุข แต่อย่างไรก็ตาม ในชีวิตของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆ ที่ต้องเจอบททดสอบการควบคุมอารมณ์ และสติของเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ความเครียด จากการสอบ ถูกเพื่อนแกล้ง หรืออื่นๆ อีกมากมาย เราสามารถที่จะฝึกลูกของเราให้มีความฉลาดทางอารมณ์ได้ตั้งแต่เขายังเล็ก

.

Paul Ekman นักจิตวิทยาได้กล่าวเอาไว้ว่า “การพัฒนาทักษะความฉลาดทางอารมณ์ เป็นเรื่องของทักษะที่สามารถพัฒนาได้ และเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องฝึกฝนและพัฒนามัน”

. ดังนั้น เมื่อ ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นเรื่องของทักษะ เราก็สามารถที่จะฝึกลูกของเราให้มีทักษะนี้ได้ตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็กๆ

.

สุขภาพทางอารมณ์ที่ดีคืออะไร

.

เราสามารถบอกได้ว่า พฤติกรรมการแสดงออกไม่ว่าจะเป็น การกรีดร้องตะโกน การปิดประตูกระแทกใส่คนอื่น หรือการแกล้งเพื่อน เป็นพฤติกรรมที่มีผลจากสุขภาพทางอารมณ์ที่ไม่ดี

.

เด็กๆ ที่ไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของตัวเองว่ากำลังรู้สึกอย่างไร และแสดงออกมาให้เห็นทางพฤติกรรม จัดเป็น เด็กที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพอารมณ์

.

ถ้าพวกเขาได้รับการสอน ให้รับรู้ถึง อารมณ์ และจัดการกับมัน เช่น เมื่อโกรธเพื่อน แทนที่จะผลักเพื่อนให้ล้มลง เราสอนให้พวกเขาหายใจลึกๆ และเดินจากมาเพื่อสงบสติอารมณ์แทนเป็นต้น

.

การฝึกให้เด็กมีสติ ผ่านการทำกิจกรรมที่สร้างสมาธิ สอนให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะเข้าใจ และรับรู้ถึงความรู้สึกตัวเองที่เกิดขึ้น และจัดการกับมันได้อย่างเหมาะสม เป็นสิ่งที่ดีมาก ซึ่งหากทำได้ พวกเขาจะมีความสามารถที่จะ ควบคุมอารมณ์ของตัวเอง รู้ตัว และตัดสินใจตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม

.

คำถามก็คือว่า แล้วเราจะมีวิธีการสอนลูกของเราให้มีความฉลาดทางอารมณ์ได้อย่างไร

.

นักจิตวิทยา ผู้เขียนหนังสือเรื่อง The emotionally healthy child มีวิธีการมาแบ่งปันดังต่อไปนี้ค่ะ

.

1. สร้างคำศัพท์ที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก เพื่อช่วยให้เด็กๆ สามารถระบุถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นของตัวเองได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น รู้สึกโกรธ รู้สึกอีดอัด ขับข้องใจ หรือ รู้สึกรำคาญใจ

.

การจัดการกับความรู้สึกอึดอัด ขับข้องใจ สามารถจัดการได้ง่าย และแตกต่างกับความรู้สึกโกรธ ดังนั้น การสอนให้ลูกของเรารู้ที่จะบอกถึงความรู้สึก เพื่อระบุความรู้สึกที่ถูกต้อง เป็นการเริ่มต้นที่ดี

.

2. จริงใจกับความรู้สึกของตัวเอง ถ้าหากพวกเขารู้สึก เศร้า เสียใจ อ่อนแอ ในวันที่แย่ๆ ก็ไม่แปลกอะไรที่จะบอกถึงความรู้สึกนั้น โดยไม่ต้องเสแสร้งที่จะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร

.

อย่าลืมว่า การที่จะให้พวกเขาจริงใจกับความรู้สึก เราในฐานะของผู้ปกครองมีหน้าที่ที่สำคัญในการที่จะแสดงตัวเองเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกของเราก่อน

.

เมื่อเขาบอกถึงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา โดยไม่ต้องรู้สึกว่าต้องปกปิดเอาไว้ ก็เป็นการง่ายที่จะจัดการกับมันให้ได้อย่างถูกวิธี

.

3. ใช้กลยุทธในการจัดการกับความรู้สึกของตัวเองในทางบวก เด็กที่มี ความฉลาดทางอารมณ์ จะมีความสามาถในการที่จะจัดการความรู้สึก และ สงบสติอารมณ์ของตัวเองได้อย่างดีมาก พวกเขาจะหายใจลึกๆ นั่งนิ่งๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ ให้กลับไปอยู่ในสภาวะปกติ ก่อนที่จะตัดสินใจจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่มากระทบอารมณ์และความรู้สึกของพวกเขา

.

4. เรียนรู้ไปด้วยกัน เนื่องจากในปัจจุบัน มีสื่อมากมายที่ส่งผลต่อ อารมณ์ และพฤติกรรมของลูกของเรา ที่ยากที่จะควบคุมได้ การที่จะช่วยให้ลูกของเราเรียนรู้ที่จะมีความฉลาดทางอารมณ์ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันกับลูกของเรา

.

พิจารณาจากตัวเราเองที่ แม้เราจะรู้และเข้าใจว่า พฤติกรรมบางอย่างไม่ถูกต้องและเหมาะสม ในบางครั้งเราก็ไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้ ตลอดเวลา

.

ลูกของเราก็ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน และ ต้องการความเข้าใจ และกำลังใจ เพื่อให้พวกเขารู้ว่า พวกเขาทำได้ดีขึ้น และกำลังทำในสิ่งที่ดีและมีประโยชน์กับชีวิตของพวกเขาในวันข้างหน้า

.

จงจำไว้ว่า เด็กที่แสดงออก ทางพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ผ่านการฝึก และพัฒนา ทักษะ ความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งพวกเขาสามารถที่จะเรียนรู็และฝึกฝนได้

The Better You by Pair

เราเป็น Platform ที่แบ่งปันบทความด้านจิตวิทยาที่จะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพจิตของคุณ

นอกจากนี้ เรายังมีบริการอื่นๆ ที่คุณสามารถใช้บริการได้ในรูปแบบออนไลน์ ได้แก่

การให้บริการปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยนักจิตวิทยามืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์ให้คำปรึกษามากกว่า 100 ชั่วโมง 

การบำบัดในรูปแบบต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจสำหรับปัญหาของคุณโดยเฉพาะ